Defensive Driving การอบรมพนักงานขับรถที่ช่วยมอบความปลอดภัยสูงสุด

Defensive Driving

การอบรม Defensive Driving กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่หลายองค์กรและผู้ให้บริการพนักงานขับรถให้ความสำคัญ เพราะบนท้องถนน อุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะเกิดจากความประมาท ความไม่รอบคอบ หรือปัจจัยที่เราไม่สามารถควบคุมได้ แต่สิ่งที่เราสามารถทำได้คือการเตรียมพร้อม ป้องกัน และลดความเสี่ยงให้น้อยที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับพนักงานขับรถที่ต้องรับผิดชอบชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น การฝึกอบรมช่วยให้พวกเขามีทักษะที่ดียิ่งขึ้นในการขับขี่อย่างปลอดภัย ลดอุบัติเหตุ และเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้โดยสารได้

Defensive driving ?

Defensive Driving คือ?

Defensive Driving หรือ การขับขี่เชิงป้องกัน เป็นแนวคิดและหลักสูตรการขับขี่ที่มุ่งเน้นการป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นบนท้องถนนโดยใช้เทคนิคการขับขี่ที่ปลอดภัย ลดความเสี่ยง และคาดการณ์พฤติกรรมของผู้ใช้ถนนคนอื่นๆ ถือเป็นทักษะที่สำคัญสำหรับผู้ขับขี่ทุกคน  ไม่ใช่เพียงแค่การขับรถอย่างถูกต้องตามกฎจราจร แต่รวมถึงการมองการณ์ไกล คาดการณ์สถานการณ์ที่อาจเป็นอันตราย และตอบสนองได้อย่างปลอดภัย การขับขี่ในลักษณะนี้ช่วยให้สามารถหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ และช่วยลดความเสี่ยงให้กับทั้งตัวผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และผู้ใช้ถนนคนอื่นๆ 

จุดเริ่มต้นของ การขับขี่เชิงป้องกัน

แนวคิดนี้มีรากฐานมาจาก หน่วยงานด้านความปลอดภัยทางถนน และ องค์กรที่เกี่ยวข้องกับการลดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ที่เริ่มส่งเสริมหลักสูตรนี้ผ่าน National Safety Council (NSC) ตั้งแต่ปี 1964 โดยองค์กรนี้ได้พัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมสำหรับผู้ขับขี่เพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนน และเน้นให้เห็นว่าการขับขี่อย่างปลอดภัยไม่ใช่แค่เรื่องของกฎหมายจราจร แต่ยังเกี่ยวข้องกับการรับรู้และการตอบสนองของผู้ขับขี่ต่อสถานการณ์ต่างๆ

ต่อมา หลักสูตรการขับขี่เชิงป้องกัน ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงให้เหมาะสมกับสภาพถนนและพฤติกรรมของผู้ขับขี่ในแต่ละประเทศ โดยได้รับการสนับสนุนจาก หน่วยงานภาครัฐ บริษัทประกันภัย และองค์กรด้านการขนส่ง ที่ต้องการลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุ และสร้างมาตรฐานด้านความปลอดภัยในการขับขี่

ขอบคุณข้อมูลจาก
National Safety Council (NSC) – USA , International Road Assessment Programme (iRAP) , Road Safety Authority (RSA) – Ireland , National Highway Traffic Safety Administration (NHTSA) – USA

ความสำคัญของการอบรมการขับขี่เชิงป้องกัน 

  1. ลดอุบัติเหตุและความสูญเสีย
    อุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดจากหลายปัจจัย เช่น ความประมาท ความเร็วที่ไม่เหมาะสม และการขาดทักษะในการคาดการณ์อุบัติเหตุ การอบรมจะช่วยให้ผู้ขับขี่มีความระมัดระวังมากขึ้น ลดการเกิดอุบัติเหตุและเป็นการรักษาชีวิตของทุกๆคน 
  2. ลดค่าใช้จ่ายขององค์กร
    สำหรับองค์กรที่มีพนักงานขับรถ การเกิดอุบัติเหตุสามารถทำให้เกิด ค่าใช้จ่ายแฝง เช่น ค่าซ่อมแซม ค่ารักษาพยาบาล และค่าสินไหมทดแทน การฝึกอบรมช่วยลดต้นทุนเหล่านี้ได้
  3. ปรับปรุงภาพลักษณ์ขององค์กร
    บริษัทที่มีมาตรฐานด้านความปลอดภัยสูงจะช่วยเพิ่มความไว้วางใจให้กับลูกค้าและคู่ค้า เช่นเดียวกับการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR)
  4. สอดคล้องกับมาตรฐานความปลอดภัย
    หลายองค์กรต้องการให้พนักงานขับรถผ่านการอบรมเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย เช่น ISO 39001 (Road Traffic Safety Management System) และ ISO 14001 (Environmental Management Systems)

หลักสูตรการขับขี่เชิงป้องกันในภาคธุรกิจและองค์กร

ในปัจจุบัน หลักสูตรการขับขี่เชิงป้องกัน ไม่ได้จำกัดเฉพาะบุคคลทั่วไปเท่านั้น แต่ยังถูกนำมาใช้ในภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งและบริการรับ-ส่งบุคคล เช่น

  • บริษัทโลจิสติกส์และขนส่งสินค้า ที่ต้องการลดความเสียหายจากอุบัติเหตุ
  • บริษัทที่ให้บริการรถโดยสารและรถแท็กซี่ เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับผู้โดยสาร
  • องค์กรที่มีพนักงานขับรถประจำ เช่น บริษัทที่ต้องมีการเดินทางบ่อย หรือหน่วยงานภาครัฐที่มีรถประจำตำแหน่ง
  • บริษัทที่ให้บริการพนักงานขับรถผู้บริหาร และอื่นๆ สิ่งนี้ยิ่งเป็นสิ่งที่สำคัญเพราะหัวใจหลักคือการส่งมอบพนักงานเพื่อดูแลบุคคลสำคัญ สิ่งที่สำคัญที่สุดนั่นคือเรื่องความปลอดภัย 

การขับขี่เชิงป้องกันช่วยให้พนักงานขับรถในองค์กรเหล่านี้สามารถรับมือกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุ และช่วยให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างราบรื่นมากขึ้น

การขับขี่เชิงป้องกันกับมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล

การขับขี่เชิงป้องกันได้กลายเป็น มาตรฐานสำคัญในระดับสากล และถูกรวมอยู่ในมาตรฐานด้านความปลอดภัยขององค์กร เช่น

  • ISO 39001 (Road Traffic Safety Management System) ซึ่งเป็นมาตรฐานเกี่ยวกับการจัดการความปลอดภัยทางถนน
  • ISO 45001 (Occupational Health and Safety Management System) ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในการทำงาน
  • นโยบายด้านความปลอดภัย ขององค์กรขนาดใหญ่และบริษัทประกันภัย ที่ต้องการลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง

รูปแบบของการอบรมหลักสูตรการขับขี่เชิงป้องกันหรือDefensive Driving

หลักสูตรการขับขี่เชิงป้องกันแบ่งออกเป็นหลายระดับ ขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมายและลักษณะของผู้เข้าร่วมอบรม เช่น

  • Defensive Driving Level 1: การขับขี่พื้นฐานและการป้องกันอุบัติเหตุเบื้องต้น
  • Advanced Defensive Driving: การขับขี่ในสถานการณ์พิเศษ เช่น ฝนตกหนัก ถนนลื่น หรือการขับขี่ในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น
  • Professional Defensive Driving: สำหรับพนักงานขับรถขนส่ง คนขับแท็กซี่ หรือพนักงานขับรถองค์กรที่ต้องรับผิดชอบต่อชีวิตผู้โดยสาร และบริษัทเรามีการอบรมสิ่งนี้เพื่อมาตรฐานที่ดีที่สุดก่อนส่งมอบพนักงานขับรถ

เนื้อหาหลักสูตรโดยทั่วไปจะประกอบด้วย:

  1. การคาดการณ์อุบัติเหตุล่วงหน้า (Hazard Perception)
  2. การควบคุมความเร็วและระยะห่างที่ปลอดภัย
  3. การหลีกเลี่ยงจุดบอดของรถยนต์
  4. การใช้กฎจราจรและมาตรฐานความปลอดภัย
  5. การจัดการกับสถานการณ์ฉุกเฉิน
  6. การปรับปรุงพฤติกรรมการขับขี่ให้ปลอดภัยและมีความรับผิดชอบมากขึ้น
  7. อื่นๆอีกมากมาย

มาตรฐานการอบรมพนักงานขับรถ จาก SO

และบริษัท SOPEOPLE สามารถออกแบบหลักสูตรที่เหมาะสมกับแต่ละบริษัทได้ โดยอิงจากข้อมูล รายงาน หรือแดรชบอร์ด ที่จัดทำขึ้นโดยทีมผู้เชี่ยวชาญเพื่อนำข้อมูลปรับปรุงและพัฒนาบริการและออกแบบหลักสูตรเฉพาะที่เหมาะสมที่สุด

ใครควรเข้าอบรมการขับขี่เชิงป้องกัน ?

  • พนักงานขับรถขององค์กร เช่น ขับรถรับ-ส่งผู้บริหาร ขับรถบริการลูกค้า หรือขับรถขนส่งสินค้า
  • บุคคลทั่วไปที่ต้องการเพิ่มทักษะการขับขี่ปลอดภัย
  • ผู้ที่เคยมีประวัติอุบัติเหตุทางถนนและต้องการลดความเสี่ยงในอนาคต
  • พนักงานที่ขับรถในงานอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงสูง เช่น งานก่อสร้าง โรงงาน หรือขนส่งอันตราย
  • องค์กรที่ต้องการลดอุบัติเหตุเพื่อลดต้นทุนประกันภัยและเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงานขับรถ

SO PEOPLE และการยกระดับความปลอดภัยผ่านการฝึกอบรมDefensive Driving

เราเข้าใจดีว่า อุบัติเหตุทางถนนไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของผู้ขับขี่เพียงฝ่ายเดียว แต่ยังรวมถึงปัจจัยแวดล้อมและพฤติกรรมของผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ดังนั้น การฝึกอบรมการขับขี่เชิงป้องกัน สำหรับพนักงานขับรถของเราจึงเป็นมาตรฐานที่เรายึดถือเพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขาพร้อมเผชิญทุกสถานการณ์บนท้องถนน และสามารถตอบสนองได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการที่ดีที่สุดและมั่นใจได้ว่า พนักงานขับรถของ SO PEOPLE จะเป็นมืออาชีพที่มากกว่าการขับรถทั่วไป เราจึงดำเนินการฝึกอบรมในด้านต่างๆ เช่น

  • อบรมพนักงานขับรถขององค์กรเพื่อเพิ่มทักษะและลดอุบัติเหตุ
  • พนักงานขับรถของเราต้องผ่านการอบรมการขับขี่เชิงป้องกัน ก่อนจะปฏิบัติงานจริง
  • เรียนรู้ เทคนิคการขับขี่เชิงป้องกัน เช่น การคาดการณ์อุบัติเหตุล่วงหน้า การควบคุมรถในสถานการณ์ฉุกเฉิน และการขับขี่อย่างมีความรับผิดชอบ
  • เสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับกฎจราจรและแนวทางการขับขี่ที่ปลอดภัย
  • ใช้เทคโนโลยีตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

อ่านรายละเอียดบริการพนักงานขับรถเพิ่มเติมได้ที่ : Website SOPEOPLE https://www.sopeople.asia/driver/

ที่ SO PEOPLE เราให้ความสำคัญสูงสุดกับ “ความปลอดภัย” ในทุกบริการที่เรามอบให้ลูกค้า โดยเฉพาะในส่วนของพนักงานขับรถ ซึ่งเป็นตัวแทนของเราที่ต้องรับผิดชอบชีวิตและทรัพย์สินของลูกค้า ดังนั้น เราจึงไม่เพียงแค่จัดหาพนักงานขับรถ แต่ยังมุ่งมั่นพัฒนาและฝึกอบรมให้พวกเขามีทักษะในการขับขี่เชิงป้องกัน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าทุกเส้นทางการเดินทางจะปลอดภัยสูงสุด 

สนใจบริการติดต่อ

Defensive Driving หรือ การขับขี่เชิงป้องกัน เป็นแนวทางที่ช่วยลดความเสี่ยงบนท้องถนน โดยเน้นให้ผู้ขับขี่สามารถ คาดการณ์ ป้องกัน และตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างปลอดภัย หลักสูตรนี้ช่วยเพิ่มทักษะให้กับพนักงานขับรถ หลายองค์กรนำหลักสูตรการขับขี่เชิงป้องกัน มาเป็นมาตรฐาน เช่น ISO 39001 และ ISO 45001 เพื่อลดอุบัติเหตุและเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงาน และที่ SO PEOPLE เราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของลูกค้าเป็นอันดับแรก พนักงานขับรถของเราต้องผ่านการอบรมการขับขี่เชิงป้องกัน อย่างเข้มข้น เพื่อให้มั่นใจว่าทุกเส้นทางที่พวกเขาขับเคลื่อนเต็มไปด้วยมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด เพราะความปลอดภัยไม่ใช่เรื่องของโชค แต่คือสิ่งที่เราสร้างขึ้นได้ด้วยการเตรียมพร้อมและความรับผิดชอบ